หลักสูตร
-
หลักสูตรหลักประจำ
หมายเลขหลักสูตร ๒๕๐ – ก – ล.๑๒ หมายเลข ชกท. ๐๐๑๒
เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษามีความรู้ความสามารถ ดังต่อไปนี้
ความมุ่งหมาย
๑. เป็นผู้บังคับบัญชา และฝ่ายอำนวยการที่มีภาวะผู้นำที่ดีมีศักยภาพในการเรียนรู้ มีบุคลิกภาพทหารที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีความจงรักภักดี และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
๒. ปฏิบัติงานในหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา และฝ่ายอำนวยการได้เป็นอย่างดี ตามความต้องการของกองทัพบก และสามารถเป็นฝ่ายอำนวยการในการยุทธ์ร่วม/ผสมได้ในระดับยุทธการลงมา
๓. ปฏิบัติงานตามภารกิจและพันธกิจของ ทบ. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถปฏิบัติงานร่วมกับ เหล่าทัพอื่น, ส่วนราชการ และมิตรประเทศได้
๔. มีความรอบรู้เกี่ยวกับ การเมือง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา การทหาร และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของประเทศไทย กลุ่มประเทศอาเซียน และสภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศที่มีอิทธิพลต่อความมั่นคงของประเทศไทย
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการศึกษา
- ตามประกาศกองทัพบก เรื่องการรับสมัครนายทหารบกสัญญาบัตรชาย เพื่อเข้ารับการศึกษา หลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ ๙๖ และเรื่อง การรับสมัครนายทหารบกสัญญาบัตรชาย เพื่อสอบคัดเลือกเข้ารับการศึกษา หลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ ๙๖
ระยะเวลาการศึกษา
๔๘ สัปดาห์ ๑,๖๘๐ ชั่วโมง
-
หลักสูตร นายทหารบกอาวุโส โรงเรียนเสนาธิการทหารบก
หมายเลขหลักสูตร ๒๕๐ – ก – ล.๑๖ หมายเลข ชกท. ๐๐๑๘
ความมุ่งหมาย : เพื่อให้นายทหารสัญญาบัตรมีความรู้ความสามารถ ดังต่อไปนี้
๑. เป็นผู้บังคับบัญชา และฝ่ายอำนวยการ ที่มีภาวะผู้นำที่ดี มีศักยภาพในการเรียนรู้ มีคุณธรรม จริยธรรม มีความจงรักภักดี และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
๒. ปฏิบัติงานในหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา และฝ่ายอำนวยการ ได้ตามความต้องการของกองทัพบก และสามารถเป็นฝ่ายอำนวยการในการปฏิบัติการในพื้นที่ส่วนหลังรวมทั้งการบรรเทาสาธารณภัยได้เป็นอย่างดี
๓. มีความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติการพิเศษ การรักษาความมั่นคงภายใน การปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือการสงคราม และบทบาทของกองทัพกับการพัฒนาประเทศ
๔. มีความรู้พื้นฐานในด้านความมั่นคง หลักการทางยุทธศาสตร์ และยุทธวิธี รวมทั้งเข้าใจหลักการบริหารที่มีประสิทธิภาพ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารงานได้
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการศึกษา
๑. มีชั้นยศไม่ต่ำกว่า พันตรี และมีเวลารับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตร หรือรวมกันกับการเป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตรไม่ต่ำกว่า ๑๒ ปี นับถึงปีที่เปิดการศึกษา
๒. สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรชั้นนายพันของเหล่า หรือเทียบเท่ามาแล้ว และไม่เคยสำเร็จการศึกษาในหลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก หรือโรงเรียนเสนาธิการของต่างเหล่าทัพและมิตรประเทศ
๓. อายุตั้งแต่ ๔๑ ปีบริบูรณ์ขึ้นไปแต่ไม่เกิน ๕๐ ปีบริบูรณ์ นับตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร โดยนับถึงปีที่เปิดการศึกษา
๔. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถตรากตรำในการศึกษา และปฏิบัติงานขณะเป็นนายทหารนักเรียน โดยผ่านการตรวจสอบสุขภาพชั้นต้น และมีหนังสือรับรองจากแพทย์ทหาร
๕. ได้รับความไว้วางใจให้เข้าถึงชั้นความลับ ลับมาก
๖. เป็นผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่างการสอบสวนทางวินัย หรือเป็นจำเลยของศาลในคดีอาญา
ระยะเวลาการศึกษา ๒๔ สัปดาห์ ๘๔๐ ชั่วโมง
-
หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ความมั่นคงศึกษา) พ.ศ. ๒๕๕๖
๑. ชื่อหลักสูตร
หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ความมั่นคงศึกษา)
Master of Arts Program in Security Studies
๒. ชื่อปริญญา
ภาษาไทย : ชื่อเต็ม ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ความมั่นคงศึกษา) : ชื่อย่อ ศศ.ม.(ความมั่นคงศึกษา)
ภาษาอังกฤษ : ชื่อเต็ม Master of Arts (Security Studies) : ชื่อย่อ M.A. (Security Studies)
๔. ปรัชญาของหลักสูตร
คนหรือบุคลากรถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนาประเทศ การพัฒนาและยกระดับการศึกษาของบุคลากรจึงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ความมั่นคงศึกษา) มุ่งพัฒนาบุคลากรทั้งในองค์กรภาครัฐ องค์กรเอกชน และพลเรือนทุกภาคส่วน ให้เป็นผู้มีความรู้ทางด้านการทหารและความมั่นคงของชาติ เพื่อพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือและการประสานงานในการแก้ปัญหาด้านการทหารและความมั่นคงของชาติไปในทิศทางเดียวกัน สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีประสิทธิภาพ
๕. วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
๕.๑ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร หลักสูตรแผน ก เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
๕.๑.๑ มีความรอบรู้ในกิจการทางด้านความมั่นคง ทั้งในระดับชาติ ระดับภูมิภาคและระดับโลก
๕.๑.๒ มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและสามารถพัฒนางานในหน้าที่ ให้ก้าวทันกับบริบททางด้านความมั่นคง และการบริหารที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่อง
๕.๑.๓ มีความสามารถในการวิจัยและการให้คำปรึกษา เพื่อแก้ปัญหาทางด้านการทหารและความมั่นคงแก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๕.๑.๔ มีภาวะผู้นำที่ดี สามารถพัฒาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง มีคุณธรรมจริยธรรม และมีจิตสาธารณะในการให้บริการสังคม
๕.๒ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร หลักสูตรแผน ข เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
๕.๒.๑ มีความรอบรู้ในกิจการทางด้านความมั่นคง ทั้งในระดับชาติ ระดับภูมิภาคและ ระดับโลก
๕.๒.๒ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และสามารถพัฒนางานในหน้าที่ให้ก้าวทันกับบริบททางด้านความมั่นคง และการบริหารที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่อง
๕.๒.๓ มีความสามารถในการใช้องค์ความรู้ทางด้านการทหารและความมั่นคง นำผลการศึกษามาประยุกต์ใช้แก้ปัญหา รวมทั้งการให้คำปรึกษาแก่บุคคลากรที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๕.๒.๔ มีภาวะผู้นำที่ดี สามารถพัฒาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง มีคุณธรรมจริยธรรม และมีจิตสาธารณะในการให้บริการสังคม
๗. คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา ผู้เข้ารับการศึกษาแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มดังนี้คือ
๗.๑ ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทหารระดับสูงในกระทรวงกลาโหม คือผู้ที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาในหลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรโรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ หลักสูตรโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ หลักสูตรนายทหารบกอาวุโส หลักสูตรนายทหารเรืออาวุโส หลักสูตรนายทหารอากาศอาวุโส หลักสูตรนายทหารกองบัญชาการทหารสูงสุดอาวุโส หลักสูตรวิทยาลัยการทัพบก หลักสูตรวิทยาลัยการทัพเรือ หลักสูตรวิทยาลัยการทัพอากาศ และหลักสูตรวิทยาลัยสนาธิการทหาร หรือหลักสูตรการศึกษาอื่นๆ ที่คณะกรรมการบริหารหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ความมั่นคงศึกษา) โรงเรียนเสนาธิการทหารบกกำหนด ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทหารระดับสูงในกระทรวงกลาโหม เมื่อเข้ารับการศึกษาจะได้รับการเทียบโอนหน่วยกิต บางส่วนตามระเบียบที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบกกำหนด ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่อยู่ในระหว่างการศึกษาในหลักสูตรตามวรรคแรกนี้จะได้รับการเทียบโอนหน่วยกิต เมื่อจบการศึกษาในหลักสูตรแล้วเท่านั้นและมีระดับการวัดผลในรายวิชาได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
๗.๒ บุคคลทั่วไป มีคุณสมบัติดังนี้
๗.๒.๑ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาในประเทศหรือต่างประเทศที่กระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนรับรอง
๗.๒.๒ มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี
๘. วิธีการคัดเลือกผู้เข้าศึกษา
๘.๑ ผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบความรู้เกี่ยวกับระเบียบวิธีวิจัยและสถิติเบื้องต้น ความรู้พื้นฐานทางทหาร ภาษาอังกฤษ และบุคคลทั่วไปตามข้อ ๗.๒ จะต้องสอบสัมภาษณ์ด้วย
๘.๒ คณะกรรมการคัดเลือกที่แต่งตั้งโดยโรงเรียนเสนาธิการทหารบก จะพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครที่ ผ่านการทดสอบความรู้ ประสบการณ์ ผลการศึกษาในระดับปริญญาตรีและความเหมาะสมอื่นๆ เพื่อเข้าเป็นนักศึกษาต่อไป
๑๐. ระยะเวลาการศึกษา
๑๐.๑ ในระบบการศึกษาแบบทวิภาคใช้เวลาการศึกษาตลอดหลักสูตรอย่างน้อย ๔ ภาคการศึกษาปกติ หรือไม่น้อยกว่า ๒ ปีการศึกษา และอย่างมากไม่เกิน ๕ ปีการศึกษา โดยนักศึกษาสามารถที่จะเรียนรายวิชาและทำวิทยานิพนธ์/สารนิพนธ์ให้สำเร็จการศึกษาได้ภายในเวลา ๒ ปี แต่ไม่เกิน ๕ ปีการศึกษา
๑๐.๒ การคำนวณระยะเวลาศึกษาของนักศึกษาแต่ละคนให้นับจากวันที่เริ่มเข้ารับการศึกษาตามหลักสูตรถึงวันที่สอบผ่านวิทยานิพนธ์/สารนิพนธ์ขั้นสุดท้าย
-
หลักสูตร การพัฒนาองค์ความรู้การก่อการร้าย และการก่อความไม่สงบ สำหรับผู้บริหาร (พรส.)
บทนำ
“โรงเรียนเสนาธิการทหารบก จึงได้ริเริ่มจัดทำ “หลักสูตรการก่อการร้าย, สงครามต่อต้านการก่อการร้าย, การก่อความไม่สงบ และ การป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ สำหรับผู้บริหาร” ขึ้น เพื่อเป็นสื่อกลางขั้นต้นสำหรับผู้บริหารที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้สามารถเข้าใจและนำไปประยุกต์ ในการกำหนดกรอบนโยบายในการแก้ปัญหา ๓ จชต. ของทุกส่วนงาน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อันจะส่งผลให้การปฏิบัติงานในการแก้ปัญหา ๓ จชต. มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"
๑. หลักการและเหตุผล
สภาพแวดล้อมความมั่นคงของโลกปัจจุบัน หลัง ๑๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๔ มิติความมั่นคงถูกครอบงำด้วยบริบทของ “สงครามต่อต้านการก่อการร้าย” (Global War on Terror) ไปทุกส่วนของโลก โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศมหาอำนาจเดี่ยว ดำเนินนโยบาย ควบคุมยุทธศาสตร์การทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายกับกลุ่มก่อการร้ายระดับโลก เช่น “อัลเคด้า”
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็หนีไม่พ้นกระแสแนวคิดการทำสงครามไล่ล่ากลุ่มก่อการร้ายที่อยู่ในบัญชีการก่อการร้ายสากลที่จัดทำโดยสหรัฐอเมริกาได้แก่ กลุ่มเจมาห์อิสลามิยาห์, กลุ่มอาบูซายับ และกลุ่มก่อการร้ายใหม่ๆที่พัฒนาศักยภาพมาจากกลุ่มก่อความไม่สงบภายในประเทศ เป็นต้น
ประเทศไทยเป็นสมาชิกอาเซียนที่ประกาศดำเนินนโยบายการต่อต้านการก่อการร้ายภายใต้กรอบขององค์กรสหประชาชาติ กรอบอาเซียน เอเปค และเออาร์เอฟ (ARF) ที่สำคัญมีความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้าย ทั้งในระดับนโยบายระหว่างรัฐบาล และในระดับปฏิบัติการระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทั้งสองฝ่าย
ภายหลังเหตุการณ์ปล้นปืน ๔ มกราคม ๒๕๔๗ สถานการณ์การก่อความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จชต. ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้ทุ่มเททรัพยากรจำนวนมหาศาลเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว แต่การแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายการแก้ไขปัญหาได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วความรุนแรงของสถานการณ์มิได้ลดน้อยลง แต่กลับเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ โดยสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ปัญหายังหาทางออกไม่ได้ก็คือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในบางส่วนของภาครัฐ ยังมีความเข้าใจในเรื่องการก่อการร้าย, สงครามต่อต้านการก่อการร้ายไม่มากนัก ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกประเทศที่ส่งผลในระดับสากล และยังคงสับสนเกี่ยวกับ การก่อความไม่สงบ, การป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบที่เป็นปัจจัยภายในประเทศ หรืออาจจะเข้าใจไปคนละทาง จนก่อให้เกิดช่องว่างในการแก้ปัญหาตลอดมา
โรงเรียนเสนาธิการทหารบก สถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง เป็นสถาบันหลักที่ผลิตนายทหารในกองทัพบก เพื่อปฏิบัติหน้าที่เป็นเป็นผู้บังคับบัญชา และฝ่ายอำนวยการในกองทัพบก ที่พร้อมด้วยความรู้ ความสามารถ จริยธรรม คุณธรรม ด้วยการให้การศึกษาในวิชาการด้านการทหาร และความมั่นคงที่ทันสมัย ตามสถานการณ์ของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง และจากความไม่สงบที่เกิดขึ้นใน ๓ จชต.นั้น โรงเรียนเสนาธิการทหารบกเห็นว่า หากจะแก้ปัญหาใน ๓ จชต.ให้หมดสิ้นไปโดยเร็วนั้น จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในปัญหานั้นอย่างแท้จริง ตั้งแต่ระดับนโยบาย ลงไปจนถึงระดับผู้ปฏิบัติ ดังนั้นการสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาใน ๓ จชต. จึงเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง โรงเรียนเสนาธิการทหารบกจึงได้ริเริ่มจัดทำ “หลักสูตรการก่อการร้าย, สงครามต่อต้านการก่อการร้าย, การก่อความไม่สงบ และการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ สำหรับผู้บริหาร” ขึ้น เพื่อเป็นสื่อกลางขั้นต้นสำหรับผู้บริหารที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐให้สามารถเข้าใจและนำไปประยุกต์ ในการกำหนดกรอบนโยบายในการแก้ปัญหา ๓ จชต. ของทุกส่วนงาน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อันจะส่งผลให้การปฏิบัติงานในการแก้ปัญหา ๓ จชต. มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
๒. วัตถุประสงค์
๒.๑ เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษา มีความเข้าใจในเรื่อง การก่อการร้าย, สงครามต่อต้านการก่อการร้าย, การก่อความไม่สงบ และ การป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ
๒.๒ เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษา เข้าใจ และสามารถวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดสงครามก่อการร้ายในระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับชาติ
๒.๓ เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษา เข้าใจ และ สามารถวิเคราะห์นโยบาย และยุทธศาสตร์การทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายของนานาชาติ กลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศไทย
๒.๔ เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษา เข้าใจ และ สามารถนำองค์ความรู้เกี่ยวกับการก่อการร้ายมากำหนดนโยบายการแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
๓. การดำเนินการ
๓.๑ ระยะเวลาในการศึกษา : ๖ สัปดาห์ (สัปดาห์ละ ๒ วัน)
๓.๑ วิธีการศึกษา
๓.๑.๑ การบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิ
๓.๑.๒ การเสวนา
๓.๑.๓ การสัมมนากลุ่ม
๓.๒ การประเมินผล
๓.๒.๑ เอกสารวิเคราะห์ปัญหาการก่อการร้ายเป็นรายบุคคล
๓.๒.๒ เอกสารการสัมมนากลุ่ม และการนำเสนอ
๔. ผู้เข้ารับการศึกษา
๔.๑ กลุ่มเป้าหมาย : ข้าราชการทหาร และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานด้านความมั่นคง
๔.๒ คุณสมบัติ :
๔.๒.๑ ข้าราชการทหารระดับผู้อำนวยการกอง (ชั้นยศ พ.อ. (พิเศษ))
๔.๒.๒ ข้าราชการพลเรือน ระดับ ๘ หรือเทียบเท่า
๔.๓ จำนวน : ๓๐ นาย
๕. สถานที่
โรงเรียนเสนาธิการทหารบก
๖. ผู้รับผิดชอบโครงการ
ส่วนปฏิบัติการพิเศษ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก
๗. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
๙.๑ ผู้เข้ารับการศึกษา มีความเข้าใจและสามารถวิเคราะห์รายละเอียดเกี่ยวกับการก่อการร้าย, สงครามต่อต้านการก่อการร้าย ตั้งแต่ระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับชาติ ทั้งสถานการณ์การก่อการร้ายในที่เกิดในปัจจุบัน และที่คาดว่าจะเกิดในอนาคต
๙.๒ ผู้เข้ารับการศึกษามีการพัฒนาสัมพันธ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสามารถกำหนดนโยบายต่อต้านการก่อการร้ายร่วมกัน ทำให้การแก้ปัญหาการก่อการร้ายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
๙.๓ ผู้เข้ารับการศึกษา มีความเข้าใจ และสามารถวิเคราะห์รายละเอียดเกี่ยวกับการก่อความไม่สงบ และการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบใน ๓ จชต.
๙.๔ ผู้เข้ารับการศึกษาสามารถนำผลจากการสัมมนากลุ่มไปประยุกต์ใช้ในการกำหนดนโยบายการแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
๙.๕ ส่งเสริมบูรณาการองค์ความรู้เรื่อง การก่อการร้าย (Terrorism), สงครามต่อต้านการก่อการร้าย (Global War on Terror), การก่อความไม่สงบ (Insurgency) และ การป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ (Counter Insurgency) มากำหนดเป็นนโยบายการแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จชต. และเป็นการสร้างเครือข่ายในการปฏิบัติงานและองค์กรที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงของรัฐ
เอกสารวิจัยรองรับหลักสูตร
พร ภิเศกและคณะ, พันเอก, รายงานการวิจัยเรื่องแนวทางการกระตุ้นการเข้ามอบตัวของขบวนการแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้, ๒๕๕๒
ดิเรก ดีประเสริฐและคณะ, พันเอก, รายงานการวิจัยเรื่องแนวทางการพัฒนาองค์กรด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้, ๒๕๕๒
หมายเหตุ : ปรับปรุงเมื่อ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
-
หลักสูตรพัฒนาวินัยและความมั่นคง (พวม.)
CopyrIght 2023 by CGSC